วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

ภารดี อัศวธีระเกียรติ์ ประสบการณ์สมาธิจิตบำบัด

โปรดอ่านข้อความนี้สักนิด ถ้าท่านกำลังค้นหาข้อมูลสำหรับการรักษาโรคที่เจ็บป่วยอยู่ เช่น โรคมะเร็งที่รักษายาก ข้อความนี้อาจเป็นทางเลือกหนึ่งต่อท่านผู้อ่านได้
ข้าพเจ้าชื่อ ภารดี อัศวธีระเกียรติ์ มีอาชีพ เป็นมัคคุเทศก์ อายุ 46 ปี ซึ่งเมื่อ 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้รู้จัก ท่านอาจารย์ ยม และ พ.ต.ท. เขียว บารมี ซึ่งเป็นเจ้าของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์มาก มีพระนาม ว่า “ พระชัยบารมี ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถช่วยชีวิตคนป่วยต่างๆ ให้หายได้อย่างปาฎิหาริย์ แม้กระทั่งโรคมะเร็งที่มนุษย์เรากลัวมากที่สุด หรือกระทั่งโรคเอดส์ ที่ไม่มียาตัวไหนที่จะรักษาให้หายขาดได้ แต่ความศักสิทดิ์ของพระพุทธรูป
“ พระชัยบารมี ” ทำให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยวิธีการที่เรียกว่า “ การทำจิตบำบัด ”
ตอนที่ได้รู้จัก ท่านอาจารย์ยมและ พ.ต.ท. เขียว บารมี ข้าพเจ้าป็นโรคมะเร็งและความดันสูง และอีกหลายๆโรค แต่ ณ ปัจจุบันนี้โรคเหล่านี้ได้หายเป็นปกติหมดแล้ว หลังจากที่ได้ขอบารมีทำจิตบำบัดและโรคต่างๆที่เป็นอยู่นั้นหายเป็นปกติในระยะเวลาไม่นานในตอนนั้น และมีอีกเรื่องที่ข้าพเจ้าดีใจมาก คือ หลังจากที่ทำจิตบำบัดโรคต่างๆหายเป็นปกติแล้ว ข้าพเจ้าได้ขอพรทำจิตบำบัดความอ้วน ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าอ้วนนั้นมาจากการป่วยเป็นโรคด้วย ข้าพเจ้าขอทำจิตบำบัดเดิมจากน้ำหนัก 68 กก. ปัจจุบันลดเหลือเป็น 50 กก. และได้ขอบารมีต่อองค์ “ พระชัยบารมี ” ว่าขอน้ำหนักคงที่ 50 กก. คงที่ตลอดชีวิตด้วย ซึ่งตอนทำจิตบำบัดความอ้วนนี้ บารมีของพระชัยบารมี สามารถลดน้ำหนักลงได้ 18 กก. ภายใน 3 อาทิตย์เท่านั้น โดยไม่เกิดอาการอ่อนเพลียหรือผิวหนังเหี่ยวย่นจากการลดน้ำหนักมาก ภายในระยะเวลาอันสั้น แถมยังมีสุขภาพแข็งแรงสามารถทำงานได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่เหมือนช่วงที่มีน้ำหนักมากและป่วยอยู่นั้นจะเหนื่อยง่าย ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ แม้เวลาผ่านมา 2 ปีครึ่งแล้ว ข้าพเจ้าก็ยังคงมีน้ำหนักคงที่อยู่ที่ 50 กกทั้งๆที่ไม่ได้จำกัดอาหารแต่อย่างใดเลย
และมีผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งและโรคร้ายต่างๆอีกจำนวนมากที่หายเป็นปกติจากการทำจิตบำบัดต่อองค์ “ พระชัยบารมี ” ผู้เจ็บป่วยที่มาขอพรจำนวนมากหายเป็นปกติแล้วนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นสภาพตอนที่มาขอทำจิตบำบัดครั้งแรกมีสภาพที่แย่มาก ดูแล้วไม่น่าจะมีชีวิตรอดได้ แต่ปัจจุบันมีสุขภาพแข็งแรงเป็นคนละคนกับตอนที่ป่วยเลยที่เดียว
ซึ่งข้าพเจ้าถือว่านี่เป็นสิ่งปาฎิหาริย์ที่เกิดในชีวิตของข้าพเจ้าเป็นคนใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรงสามารถดำเนินชีวิตในโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข
จนทำให้ข้าพเจ้าอยากจะให้ข้อมูลนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม หรือท่านผู้ใดที่หมดทางรักษาเยียวยาแล้วได้พบและอ่านข้อความนี้แล้ว ท่านคิดที่จะต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่เพื่อที่จะมีชีวิตรอดต่อไปซึ่งเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง(แพทย์ทางเลือก)
ซึ่งการทำจิตบำบัดนั้นไม่ยากเลย ขอเพียงแต่ท่านมีศรัทธาและเปิดใจต่อพุทธานุภาพความศักสิทธิ์ของ " พระชัยบารมี ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีเมตตาต่อมนุษย์มาก และตั้งใจทำตามขั้นตอนการทำจิตบำบัดของ ท่านอาจารย์ยม และ พ.ต.ท. เขียว บารมี เท่านั้น

ท่านผู้ใดที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ข้าพเจ้ายินดีให้ข้อมูลติดต่อได้ที่เบอร์ 086-448-0135 , 081-868-9818

  

 



ภารดี อัศวธีระเกียรติ์ รายงาน

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคปอด โรคไต โรคหัวใจ โรคไมเกรน และอื่นๆ มีทางออก ติดต่ออาจารย์ พ.ต.ท. เขียว บารมี

โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคปอด โรคไต โรคหัวใจ โรคไมเกรน โรคความดัน และอื่นๆอีกหลายโรค อย่าหมดหวัง มีทางออก เสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านได้ผ่านพ้นจากความกังวลใจทั้งหมดไปได้โดยง่าย กรุณาติดต่ออาจารย์ พ.ต.ท.เขียว บารมี ซึ่งจะช่วยเติมเต็มความหวัง กำลังใจและสุขภาพให้เข้าสู่ความสมดุลย์ตามธรรมชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

คุณนันทนา พานิชอัตรา : รายงานผลการทำสมาธิจิตบำบัด


ชื่อ นางสาว นันทนา พานิชอัตรา ข้าราชการบำนาญ กระทรวงศึกษาธิการเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2532
เกิดวันที่ 22 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2471 อายุ 80 ปี บ้านเลขที่ 261/299 นครหลวงคอนโด ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย จรัญสนิทวงศ์ 29/1 แขวง บางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

ขณะที่ดิฉันยังรับราชการอยู่ ลูกศิษย์คนหนึ่งได้มาเจาะเลือดไปตรวจ พบว่ามีเชื้อไวรัสบีในตับเมื่อปี 2528 ดิฉันไม่แน่ใจนัก จึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ด้วยตนเอง เมื่อตรวจแล้วคุณหมอแจ้งให้ทราบว่ามีเชื้อไวรัสบีในตับ เป็นเชื้อที่ติดต่อได้ ให้ระวังในการรับประทานอาหาร ควรมีช้อนกลาง แก้วน้ำดื่มต้องไม่ปนกัน คุณหมอก็นัดเจาะเลือด 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง ต่อมาก็เป็น 6 เดือนต่อครั้ง และนัดทำอ้ลตราซาวด์ตับปีละครั้ง แต่ไม่มียารับประทาน คุณหมอนัดอย่างนี้มาตลอด 5- 6 ปี เชื้อไวรัสก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ตับก็ปกติดี ดิฉันก็เคยพูดว่า “ถ้าจะมาอยู่ ก็ขอให้เป็นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆนะ อย่ามาทำอันตรายดิฉันก็แล้วกัน” เมื่อหมอนัดตรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ตับ เชื้อก็ยังอยู่เหมือนเดิม ตับก็ยังปกติเรื่อยมาจนถึงวันที่ได้พบท่านอาจารย์ทั้งสองท่าน

ก่อนที่ดิฉันจะมาทำจิตบำบัด บำบัดจิตเพื่อขับไล่โรคภัยไข้เจ็บในตัวของดิฉันนั้น ดิฉันเคยไปทำจิตบำบัดบำบัดจิตมาแล้ว 2 ครั้ง ที่บ้านคุณพี่จรวย แก้วนันทา อยู่แถวประชาชื่น คุณพี่จรวยเป็นเพื่อนกับพี่สาวของดิฉันคือ คุณประจง ฤกษะสุต ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2547 แต่จำวันที่ไม่ได้ จากนั้นมาก็ไม่ได้ไปอีกเลย จนกระทั่งวันที่ 18 ก.ค. 2549 พี่สาวดิฉันโทรศัพท์มาบอกว่า “ท่านอาจารย์เขียว บารมีและท่านอาจารย์ยมลงมากรุงเทพฯ จะไปพบท่านด้วยกันไหม” ดิฉันตอบว่า “ไป” พี่สาวก็บอกว่าต่อไปอีกว่า “มีคนมานิมนต์เสด็จปู่พระชัยบารมีตลอดพรรษานี้แล้ว (11 ก.ค. 2549 ถึง 7 ต.ค. 2549) ท่านพักที่คอนโดแถวสี่พระยา” ดิฉันดีใจมากคิดว่าคราวนี้คงได้มาทำจิตบำบัด บำบัดจิตติดต่อกันได้นานหน่อย โรคในตัวดิฉันก็คงถูกขับไล่ออกไป ดิฉันคงหายจากโรคมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ก็ตกลงกันว่าวันที่ 19 ก.ค. 2549 จะไปพบท่าน

วันที่ 19 ก.ค. 2549 ดิฉันและพี่สาวก็ไปพบท่าน ท่านอาจารย์ทั้งสองถามว่า “มาทำไม” ดิฉันกราบเรียนท่านว่า “มาทำจิตบำบัด บำบัดจิต ขับไล่โรคร้ายพิษร้ายในร่างกายดิฉันให้หมดไป” เพราะดิฉันเป็นหลายโรคเป็นต้นว่า ไวรัสบีในตับ ไทรอยด์ ไซนัส และคิดว่ายังมีอีกหลายโรค

ดิฉันได้เรียนให้ท่านทราบว่า ขณะที่ยังรับราชการอยู่ ลูกศิษย์คนหนึ่งได้มาเจาะเลือดไปตรวจ พบว่ามีเชื้อไวรัสบีในตับเมื่อปี 2528 ดิฉันไม่แน่ใจนัก จึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ด้วยตนเอง เมื่อตรวจแล้วคุณหมอแจ้งให้ทราบว่ามีเชื้อไวรัสบีในตับ เป็นเชื้อที่ติดต่อได้ ให้ระวังในการรับประทานอาหาร ควรมีช้อนกลาง แก้วน้ำดื่มต้องไม่ปนกัน คุณหมอก็นัดเจาะเลือด 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง ต่อมาก็เป็น 6 เดือนต่อครั้ง และนัดทำอ้ลตราซาวด์ตับปีละครั้ง แต่ไม่มียารับประทาน คุณหมอนัดอย่างนี้มาตลอด 5- 6 ปี เชื้อไวรัสก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ตับก็ปกติดี ดิฉันก็เคยพูดว่า “ถ้าจะมาอยู่ ก็ขอให้เป็นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆนะ อย่ามาทำอันตรายดิฉันก็แล้วกัน” เมื่อหมอนัดตรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ตับ เชื้อก็ยังอยู่เหมือนเดิม ตับก็ยังปกติเรื่อยมาจนถึงวันที่ได้พบท่านอาจารย์ทั้งสองท่าน ได้รับการบำบัดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

วันที่ 27 พ.ย.2549 ได้ไปตรวจที่รพ.จุฬาฯ ตับเป็นปกติดีไม่มีไวรัส เลือดดี ท่อน้ำดีปกติดี ไทรอยด์ก็หายไป มะเร็งกระดูกหายหมด ปวดกระดูกหายไป จะมีแต่ปวดเมื่อยตามปกติชองคนมีอายุ ต้อเนื้อที่ตาก็หายไป ปัจจุบันภาพที่เห็นดีขึ้นเยอะ แต่ก็ยังไม่ชัดบ้างตามวัย