เช้าวันที่ 7 กันยายน 2562 ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครมุ่งสู่วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์โต
พรหมรังสี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 42
กิโลเมตร มหาวิหารเป็นแบบกุฎาคาร
(เรือนยอดเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป)
ภายในประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยมีขนาดหน้าตักกว้าง 8 เมตร 1 นิ้ว สูง 13 เมตร หนัก 61 ตัน
ย้อนรอยอดีตช่วงเริ่มต้นสร้างพระรูปหลวงพ่อโตใหม่ๆ
เรื่องมีอยู่ว่า...
ครั้งนั้นท่านอาจารย์เขียว บารมี มาราชการขับรถยนต์ส่วนตัวเดินทางกลับผ่านสีคิ้ว(ตรงบริเวณที่สร้างองค์หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ปัจจุบัน)
เป็นที่โล่ง มีเต็นท์ตั้งอยู่หลายเต็นท์ มีรถยนต์จอดอยู่มาก มีผู้คนจำนวนมาก มีประดับธงมากมาย
จึงขับรถยนต์ เลี้ยวซ้ายเข้าไปจอด
ท่านเล่าให้ฟังว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นของท่านเอง
จึงลงจากรถ เดินเข้าไปสอบถามว่า"ที่นี่จัดงานอะไรครับ" และ ได้รับคำตอบว่า
กำลังกระทำพิธีการเปิดสถานที่เพื่อเตรียมสร้างหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ พิธีสงฆ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ทันใดนั้น คุณ สรพงษ์ ชาตรี ซึ่งแต่งกายชุดขาวได้เดินมาสนทนาด้วย สอบถาม ให้การต้อนรับเชิญเข้าไปในปะรำพิธี
คุยสนทนากันจากนั้น คุณสรพงษ์ได้เชิญให้ ท่านอาจารย์เขียว บารมี
ได้ประกอบพิธีพาคณะดำเนินการโดยอัญเชิญพระพุทธานุภาพของพระพุทธรูปชื่อ "พระชัยบารมี"
โดยได้บรรยายเรื่อง ความศักดิ์สิทธิ์ และ พระพุทธานุภาพ
พลังบารมี ปาฏิหาริย์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ผลดีนักแล ประกอบกับในขณะนั้น
มียศเป็นพ.ต.ท.เขียว บารมี ตำแหน่ง รอง
ผกก. หน.สภ.อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการบำบัดยาเสพติดให้โทษ เมื่อทุกๆท่านในที่นั้นเข้าใจ
จึงได้เริ่มประกอบพิธี ดังภาพที่เห็นต่อไปนี้
พาสวดมนต์
ผู้ร่วมพิธีที่ศรัทธา ลงนั่งราบ
เหยียดขาไปข้างหน้า หงายฝ่ามือวางบนต้นขาทั้งสองข้างยืดตัวตรงหลับตา ออกเสียงภาวนาคำว่า
"พระชัยบารมี" ตามพิธีกรรม รวมทั้ง คุณสรพงษ์ก็ปฏิบัติด้วย
พี่น้องส่วนหนึ่งก็นั่งชม สังเกตการณ์ และแล้วญาณบารมี
ของหลวงพ่อโตก็เสด็จลงมายืมสังขารร่างกายมนุษย์เสื้อลายแดง(ลูกศรสีแดง)
ญาณบารมีของหลวงพ่อโต ท่าน ยืมสังขาร ผู้ชายใส่เสื้อสีแดงลายดำ(ลูกศรสีแดง) แล้วพานั่งท่าคล้าย"หลวงพ่อโต"
ในภาพแม่บ้านของท่านอาจารย์เขียวฯ(ลูกศรสีเขียว) จึงได้เข้าไปหาคุณคุณสรพงษ์
บอกให้รีบเข้าไปกราบหลวงพ่อโต แล้วสนทนาสอบถาม เมื่อทุกคนมุ่งไปที่ ผู้ชายเสื้อสีแดงลายดำ(ลูกศรสีแดง)
ท่านอาจารย์เขียว และแม่บ้านจึงได้รีบเดินมาขึ้นรถยนต์ขับออกจากงานนั้นกลับหนองคายทันที
โดยไม่มีใครทันได้สังเกต...(จบเหตุการณ์วันนั้น)
เมื่อออกจาก หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ ได้เดินทางต่อเลี้ยวไปทางซ้ายมุ่งหน้าสู่วัดธรรมจักรเสมาราม
มีพระนอนหินทราย อายุกว่า 1300
ปี วัดธรรมจักรเสมาราม ตั้งอยู่ที่ ตำบลเสมา
อ. สูงเนิน แต่เดิมบริเวณ นี้เป็นศาสนสถานในสมัยทวาราวดี มีโบราณวัตถุที่สำคัญ คือ
พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ณ สถานที่นี้คณะญาติธรรมได้ร่วมกันทำบุญ
ถวายหนังสือเป็นธรรมทาน ถวายสังฆทาน และปัจจัย อุทิศบุญกุศลให้บรรพชนที่ล่วงลับไปแล้ว
ครูบาอาจารย์ เทวดาอารักษ์
และทุกดวงจิตดวงวิญญาณที่ปรารถนาจะได้รับบุญกุศลในครั้งนี้
เมื่อออกจากวัดธรรมจักรเสมาราม
ขับรถย้อนตามทางเดิมออกมา ผ่านโรงเรียนบ้านมะเกลือใหม่ ตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสูงเนิน
จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งในอดีตท่านอาจารย์เขียว บารมี ได้รับคำสั่ง จาก กก.ตชด.เขต
3 อุบลราชธานี ให้เดินทางมาร่วมเป็นวิทยากร ฝึกอบรม ลูกเสือชาวบ้านร่วมกับคณะวิทยากร
ลสชบ.จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งนำสิ่งของพระราชทานผ้าผูกคอ ห่วงหน้าเสือ
และวุฒิบัตร กระทำพิธีพระราชทานให้กับผู้ที่สำเร็จการอบรมลูกเสือชาวบ้าน
ได้ร่วมกิจกรรมกับวิทยากรจังหวัด ครั้งนั้นได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นอย่างดียิ่ง
ออกจากโรงเรียนบ้านมะเกลือใหม่
มุ่งสู่จงหวัดหนองคาย เพื่อพักผ่อนที่บังกะโลในช่วงค่ำ
เช้าตรู่วันใหม่มุ่งหน้าสู่ศาลากลางเก่า เพื่อไปกราบไหว้บรรพบุรุษ
เจดีย์ทหารกล้าปราบฮ่อ ติดที่ทำการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ซึ่ง สวป.ได้ออกมาต้อนรับคณะธรรมสัญจรอย่างอบอุ่น
ต่อจากนั้นมุ่งหน้าสู่ตลาดโพธิ์ชัยเพื่อทานอาหารเช้า
แล้วเข้ากราบขอพรจากหลวงพ่อพระใสในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย และขอบารมีความดีจากองค์พระธาตุหน้าพระอุโบสถ
ก่อนเดินทางกลับได้แวะเยี่ยมน้องรักของท่านอาจารย์เขียวฉายา "ขงเบ้ง" หรือ "เสี่ยเบ้ง" ซึ่งในอดีตที่เพิ่งได้รับพระชัยบารมี
ได้ร่วมกันเผยแผ่บุญบารมีของพระชัยบารมีไปถึงจังหวัดเลย
พักที่รีสอร์ทของคุณประมูลวิทย์ โดยมีคุณขงเบ้งเป็นผู้จัดการดูแล
ทำให้ชาวจังหวัดเลย พ่อค้า ประชาชน ครู นักเรียนและนักศึกษาได้กราบไหว้ขอพรรับบารมีทั้งกลางวันและกลางคืน
มีผู้มากราบไหว้พระชัยบารมีอย่างต่อเนื่องตลอด 7
วันที่ท่านอาจารย์เขียวได้ลากิจไว้ ขณะนั้นมีผู้ศรัทธามาขอกราบขอพรและบำบัดยาเสพติดหลากหลายกรณี
มีผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 จำนวนหลายใบ เป็นที่กล่าวขานในขณะนั้น ส่วนคุณขงเบ้งก็สามารถสัมผัสได้ถึงกระแสญาณของพระปิยะ...(จบเหตุการณ์ในอดีต)
หลังจากนั้นคณะญาติธรรมก็ได้เดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ