เมื่อประมาณปลายปีพ.ศ. 2541 ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียวได้รับคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดหนองคายในช่วงนั้นเรื่องของ "พระชัยบารมี" ได้มีการกล่าวขานกันมากมายใน จังหวัดหนองคาย ถึงพุทธานุภาพและพลังบารมีความดีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้โทษ มาวันหนึ่งนักธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนลาวได้อุ้มสิ่งของห่อด้วยผ้าขาวมามอบให้ที่จังหวัดหนองคาย โดยบอกว่าคนชื่อ เตี่ยเฮง อยู่ที่ประเทศลาวฝากมาให้ท่านผู้มีบุญคือ พ.ต.ท.เขียว บารมี ทั้งที่ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว ก็ไม่เคยรู้จักกับคนที่ชื่อเตี่ยเฮงมาก่อนเลย
ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว จึงได้เปิดต่อหน้าท่านผู้ถือมามอบให้เพราะเกรงว่าจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ปรากฏว่าสิ่งของที่อยู่ในหอผ้าขาวเป็นก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งหนักมาก ผู้นำมามอบให้ได้เล่าให้ฟังว่าเตี่ยเฮงได้ขึ้นไปเอามาจากยอดภูเขาสูง ขากลับลงมาเกิดอุบัติเหตุรถเกือบตกเหว จนในที่สุดเตี่ยเฮงได้ อธิฐานว่าหากพบผู้มีบุญ จะขอนำส่งมอบให้ท่านผู้มีบุญท่านนั้นจะเป็นใครก็ตามโดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้เดินทางกลับลงจากเขาด้วยความปลอดภัย เมื่อมาถึงบ้านก็เก็บบูชาไว้ที่หิ้งพระมานานแสนนาน จนกระทั่ง ได้ทราบข่าวเรื่องของ "พระชัยบารมี"ที่มี ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว อัญเชิญมาบำบัดแก้ไขปัญหายาเสพติดจึงได้ตั้งจิตอธิฐานขอฝากหินก้อนดังกล่าวมากับนักธุรกิจเพื่อมอบให้กับ ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว บารมี โดยกำชับว่าขอให้ส่งถึงมือท่านโดยตรงห้ามผ่านคนอื่นโดยเด็ดขาด แล้วบอกว่านี่คือ"เหล็กไหล" จะอยู่กับผู้มีบุญเท่านั้น เมื่อ ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว ได้เปิดออกดูแล้วทันใดนั้นก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆเป็นกลิ่นหอมแปลกๆซึ่งไม่เคยสัมผัสกับกลิ่นนี้มาก่อนเลย
เมื่อครั้งที่ ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว เป็นรองสารวัตรป้องกันปราบปรามทำหน้าที่เข้าร้อยเวรเป็นพนักงานสอบสวนอยู่ที่อำเภอศรีเชียงใหม่ในสมัยนั้นยศร้อยตำรวจตรีเข้าร้อยเวรสอบสวน ได้ทำคดีเกี่ยวกับกรณีเหล็กไหล สามารถนำคู่กรณีมาพูดคุยตกลงกันได้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอศรีเชียงใหม่ จึงพอรู้เรื่องว่า มีการซื้อขายกันราคาสูงมากๆเป็นหลักหลายๆล้านบาท
สิ่งที่ได้รับมานี้ ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียวก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ในวันนั้น ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียวได้เอาถุงกระดาษห่อเหล็กไหลดังกล่าว นำไปที่ห้องทำงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย โดยอุ้มถุงห่อเหล็กไหลเข้าไปด้วย ถึงข้างในห้อง มีนายตำรวจและ เจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ฯทุกนายก็ทำความเคารพ จากนั้น สักครู่ มีเจ้าหน้าที่หญิงถามขึ้นมาว่า "ท่านรองผู้กำกับเขียวค่ะวันนี้ท่านใส่น้ำหอมอะไรมากลิ่นหอมมากๆ หอมแปลกๆ หอมอบอวนไปทั้งห้องสำนักงาน ซึ่งไม่เคยหอมแบบนี้มาก่อนเลย ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว จึงได้ยกห่อขึ้นมาวางบนโต๊ะ พร้อมกับเปิดผ้าที่ผูกใว้เพื่อให้ทุกคนได้เห็น ทุกคนถึงกับผงะ กลิ่นยิ่งหอมฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง ต่างก็ถามกันว่าก้อนหินอะไรค่ะ ท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว ได้ตอบไปว่านี่ไง "เหล็กไหล" ทุกคนถึงกลับตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วแต่ละคนก็รีบเข้ามาก้มลงกราบและสูดดมกลิ่นหอมนั้นอย่างอิ่มอกอิ่มใจกันและกล่าวขึ้นว่า "วันนี้ถือได้ว่ามีบุญได้สัมผัสเหล็กไหลของจริง ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย ขอบพระคุณครับ/ค่ะ ที่ได้ชมและสัมผัสของจริง นับว่าเป็นมหาโชคแล้วครับ/ค่ะ"
ปัจจุบันท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียวได้กราบขอพร "พระชัยบารมี" ทรงโปรดประทานพรอนุญาตนำเหล็กไหล หรือ ธาตุกายสิทธิ์ มาช่วยเหลือบำบัดญาติธรรมธรรมที่เจ็บป่วยเดือดร้อน ปรากฎว่า ได้ผลดีนักแล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น