ข่าวการได้รับพระพุทธรูปทองคำ
“พระชัยบารมี” ได้แพร่สะพัดเป็นที่กล่าวขานทั่วจังหวัดหนองคาย
และทุกวงการ ได้มีผู้มีจิตศรัทธาไปขอกราบไหว้ที่บ้านพักอำเภอศรีเชียงใหม่
เป็นเนืองนิตย์ เช่นคณะเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจากจังหวัดหนองคาย หัวหน้าส่วนราชการจากศาลากลางจังหวัดหนองคาย(ศาลากลางหลังเก่า)
และเจ้าหน้าที่ข้าราชการ พ่อค้าประชาชนที่รู้จัก รวมทั้งพี่น้องชาวอำเภอศรีเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ท่านอาจารย์เขียวได้ประสานกับท่านกำนันตุ๊(ท่านส.จ.เสถียร มีบุญ สมาชิกสภาจังหวัดหนองคาย) และท่านพระครูเจ้าอาวาสวัดช้างเผือก เจ้าคณะอำเภอศรีเชียงใหม่ ได้จัดสถานที่ลานวัดข้างพระอุโบสถวัดช้างเผือกในตอนเย็น
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ "พระชัยบารมี"
วันดังกล่าวมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากได้เข้ามาประกอบพิธีและกราบไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งต่อมา น.ส.พ.ไทยรัฐปีที่ 49 ฉบับที่ 14758 วันพฤหัสบดี 18 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ได้ลงข่าว
"พระชัยบารมี" และภาพถ่ายของพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธามากราบไหว้ในวันดังกล่าวไว้ที่หน้าหลัง(แผ่นสุดท้าย)ครึ่งหน้า
จึงเป็นการเปิดบารมีของพระชัยบารมีให้ไปทุกสารทิศ เป็นเหตุให้มีผู้สนใจอย่างมาก
ในวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เวลา 09:30 น. ท่านอาจารย์เขียวได้ลาราชการหยุดพักผ่อน 7 วันแล้วได้อัญเชิญพระชัยบารมีไปจังหวัดเลย
พักที่เมืองเลยรีสอร์ทของน้องชายที่นับถือกันชื่อ “ขงเบ้ง” ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของและผู้จัดการ พักอยู่ตลอด 7 วัน ระหว่างที่พักนี้ก็มีผู้มีจิตศรัทธาที่รู้จักกับขงเบ้ง
มากราบไหว้ขอพรกันทุกวัน วันหนึ่งมีสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ขณะก้มกราบพระชัยบารมี
เสร็จแล้ว เธอได้บอกกับท่านอาจารย์เขียวว่า "รู้สึกปวดศีรษะอย่างมาก" ท่านอาจารย์เขียวจึงได้อธิษฐานขออนุญาตถ่ายบารมีความดีของพระชัยบารมีให้กับเธอ
ด้วยการที่ท่านอาจารย์เขียวใช้มือขวาจับพระหัตถ์ของพระชัยบารมี แล้วใช้มือซ้ายแตะที่ศีรษะของเธอ
ทันใดนั้นเธอก็ได้ล้มตัวนอนหมดสติทันที
ต่อหน้าพระชัยบารมีและต่อหน้าทุกคนที่มากราบไหว้ในวันนั้น ท่านอาจารย์เขียว ขงเบ้งและคนอื่นๆต่างตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก น่าจะประมาณสัก 3 นาทีแล้ว ท่านอาจารย์เขียวจึงตัดสินใจให้จัดเตรียมรถ
ไว้ใกล้ๆ เพื่อที่จะได้นำส่งโรงพยาบาล ขณะที่กำลังเตรียมตัวช่วยกันจะอุ้มเธอเพื่อขึ้นรถ
เธอก็รู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา ตัวเธอเองก็มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เธอก็ได้กราบลาพระชัยบารมีเพื่อกลับบ้านทันที
นอกจากนี้ก็มีญาติธรรมตามไปส่งอีกหลายคน สักประมาณ 3 ช.ม.
ญาติธรรมที่ไปส่งก็ได้กลับมาเล่าให้ฟังว่า "สุภาพสตรีท่านนั้นเป็นสังขารเทียบ(ร่าง)ของเจ้าพ่อกุดป่อง
เป็นภูมิที่ปกปักรักษาอยู่ ณ ตัวจังหวัดเลย มีลูกหลานนับถือจำนวนมาก
เมื่อไปถึงบ้านของเธอแล้ว เธอได้จุดธูปเทียนบูชาครูบาอาจารย์ของเธอ
แล้วอัญเชิญเจ้าพ่อกุดป่องเข้าสังขาร เพื่อสอบถามความถูกต้องและความเป็นมา" ญาติธรรมได้เล่าต่อว่า “เจ้าพ่อกุดป่องได้พูดว่า พระพุทธรูปองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์มาก
และเป็นพระพุทธรูปที่สูงส่ง บารมีพระองค์ท่านเสด็จจากเบื้องบนลงสู่โลกมนุษย์
ชาวมนุษย์โลกผู้ใดอยากได้อะไร ให้ไปกราบไหว้ขอพรจากท่าน
แล้วจะได้สมความปรารถนาทุกประการ เลิกยาเสพติด และบำบัดโรคภัยไข้เจ็บดีนักแล”