ขณะเมื่อท่านอาจารย์ พ.ต.ท.เขียว บารมี
(อาจารย์เขียว) ดำรงตำแหน่งสารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธร ตำบลเวียงคุก อำเภอเมือง
จังหวัดหนองคาย ได้รับคำสั่งจากศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้าน อ.เมือง
ให้ไปทำหน้าที่ผู้อำนวยการฝึกลูกเสือชาวบ้าน ณ โรงเรียนบ้านหนองกอมเกาะ ตำบลหนองกอมเกาะ
อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เมื่อเสร็จจากพิธีการบายศรีสู่ขวัญในคืนนั้น มีพระจันทร์ทรงกลด
อยู่กึ่งกลางศีรษะ คืนนั้นท่านอาจารย์เขียวนอนหลับ ได้ฝันว่า “ท่านอาจารย์เขียวได้กราบบูชาพระพุทธรูปทองคำหน้าตัก 9 นิ้ว และมีความรู้สึกด้วยว่า ท่านได้เป็นเจ้าของพระพุทธรูปองค์นั้น”
วันรุ่งขึ้นเป็นวันปิดค่ายจบการอบรม ท่านอาจารย์เขียวได้ไปกราบนมัสการพระอาจารย์
ท่านเจ้าอาวาสวัดหนองบัวเงิน บ้านหนองบัวเงิน กิ่งอำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย
ได้เล่าเรื่องความฝันให้พระท่านฟัง พระอาจารย์ได้พูดว่า “จะเป็นความจริง
ไม่เกิน 7 วันหรอกโยมเขียว” ท่านอาจารย์เขียวจึงได้ย้อนถามว่า
“แล้วจะได้มาจากไหน (ขณะนั้นความโลภเกิดขึ้น
อยากได้พระทองคำ)” พระคุณเจ้า ตอบว่า “จะได้จากฝั่งลาว”
ต่อมาวันที่ 26 มีนาคม 2541 ท่านอาจารย์เขียวได้ไปที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวงที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส และได้เข้าไปกราบ พร้อมกับเข้าไปพบคณะกรรมการวัด เนื่องจากท่านอาจารย์เขียวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการประชาสัมพันธ์ ของวัดโพธิ์ชัย เพื่อเตรียมประกอบพิธีปลุกเสกพระพุทธรูปและวัตถุมงคลของหลวงพ่อพระใส รุ่น“กระเบื้องหลังคาโบสถ์” แล้วได้เลยกลับไปที่วัดหนองบัวเงิน เพื่อไปกราบนมัสการและสนทนากับพระอาจารย์ท่านเจ้าอาวาสในเย็นวันนั้น และได้เห็นพระพุทธรูปทรงเครื่ององค์หนึ่งลงชาด(สีแดง)ปิดด้วยทองเปลวไว้ อยู่บนโต๊ะบูชาในห้องของพระท่าน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ท่านอาจารย์เขียวได้เห็นพระพุทธรูปองค์นี้ ได้พูดกับหลวงพ่อตามความรู้สึกนึกคิดในขณะนั้นว่า “พระองค์นี้เหมือนยังกับพระลิเกเลย” หลวงพ่อท่านได้บอกว่า “ให้อุ้มพระองค์นี้ลงจากโต๊ะบูชา ไปใส่รถเอากลับบ้านไปนะ อาตมายกให้” เมื่อท่านอาจารย์เขียวได้เข้าไปยกพระพุทธรูปแล้วท่านอาจารย์เขียวรู้สึกตกใจเพราะ พระหนักมาก ท่านอาจารย์เขียวไม่คิดว่าจะเป็นโลหะ ท่านฯเลยตอบหลวงพ่อไปว่า “ผมไม่ขอรับครับ เพราะเป็นพระที่ประจำอยู่ที่วัดวาอาราม เป็นสมบัติของสงฆ์” หลวงพ่อตอบว่า “เป็นพระส่วนตัวของอาตมาเอง ลูกศิษย์เขาเอามามอบถวายให้ อาตมาเห็นว่าน่าจะเป็นพระคู่บุญคู่บารมีของโยมเขียว แต่ถ้าไม่รับพระองค์นี้ไป ตำแหน่งตำรวจก็จะไม่ได้เลื่อน และไม่ต้องมาที่นี่อีก” ด้วยความกลัวที่จะไม่ได้เข้ามาวัด และยังมีความโลภเรื่องเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองผู้กำกับฯ เลยไม่กล้าขัดใจหลวงพ่อท่าน จึงได้กราบนิมนต์รับพระพุทธรูปซึ่งในขณะนั้นเรียกว่า “พระลิเก”กลับบ้านพัก สารวัตรหัวหน้า(สว.หน.) ที่สถานีตำรวจภูธรตำบล(สภ.ต.) เวียงคุก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น